ในช่วง 7-10
วันต่อมาจะมีสีเหลืองเนื่องจากมีเซลล์และเม็ดเลือดขาวจำนวนมากขึ้น
จากนั้นจะกลายเป็นน้ำสีขาวและหายหมดไปราวประมาณหนึ่งเดือนหลังคลอดการที่ลักษณะของน้ำที่ออกมานั้นมีลักษณะคล้ายน้ำที่ออกจากตัวปลาเวลาล้างจะทำเตรียมการปรุงประกอบอาหารจึงทำให้ชาวบ้านเรียก
“น้ำคาวปลา” ภายในมดลูกของคนเรามีลักษณะเป็นช่องว่างที่เรียกว่า
โพรงมดลูกและมีเยื่อบางๆ
บุหรือคลุมผนังของโพรงมดลูกอยู่จนทั่วคล้ายกับผ้ากำมะหยี่ที่บุอยู่ภายในกล่องซึ่งเยื่อดังกล่าวก็คือ
เยื่อบุโพรงมดลูก นั่นเอง
เมื่อมีการตั้งครรภ์
ตัวอ่อนจะมีการฝังตัวอยู่ภายในเยื่อบุโพรงมดลูกดังกล่าวแล้วค่อยๆ
โตขึ้นจนกลายเป็นตัวเด็กซึ่งเมื่อมีขนาดใหญ่มากก็จะมาลอยอยู่ในถุงน้ำคร่ำซึ่งอยู่ภายในโพรงมดลูก
และยึดติดแน่นกับเยื่อบุโพรงมดลูก
ภายหลังการคลอด เยื่อบุโพรงมดลูกจะมีการฉีกขาดและหลุดลอกออกมา
ซึ่งจะทำให้มีเลือดออกมาร่วมด้วย
เยื่อบุโพรงมดลูกและเลือดที่ปนกันไหลออกมาให้เห็นทางช่องคลอดเรียกว่า น้ำคาวปลา
นั่นเอง
น้ำคาวปลา ในระยะ 2-3 วันแรกหลังคลอด เลือดที่ไหลปนกับเยื่อบุโพรงมดลูกที่ลอกออกมาจะมีปริมาณค่อนข้างมาก
จึงเห็นน้ำคาวปลาในระยะนี้มีสีค่อนข้างแดง หลังจากนั้นประมาณ
3-4 วันหลังคลอด เลือดจะออกน้อยลง
ทำให้น้ำคาวปลามีสีจางลง ภายหลังคลอดประมาณ 10 วัน
น้ำคาวปลาจะออกน้อยลงและภายในช่องคลอด เริ่มมีการสร้างตกขาวออกมาปนกับน้ำคาวปลา
ทำให้น้ำคาวปลาในระยะนี้มีสีขาวปนเหลืองและเหนียวข้น
หลังจากระยะนี้น้ำคาวปลาก็จะหมด
แต่จะมีตกขาวแทนซึ่งเป็นกลไกการเปลี่ยนแปลง ภายหลังคลอดตามปกติของคุณแม่นั่นเอง
ในคุณแม่ที่ได้รับการผ่าตัดคลอด
คุณหมอจะเช็ดทำความสะอาดภายในมดลูกขณะผ่าตัดคลอดให้ด้วย ดังนั้นคุณแม่ที่ได้รับการผ่าตัดคลอดอาจจะมีลักษณะการเปลี่ยนแปลงของน้ำคาวปลาในระยะเวลาที่สั้นขึ้น
อาจจะไม่ถึง 10 วัน บางคนเพียงแค่ 4-5 วัน
น้ำคาวปลาก็อาจจะหายแล้วก็ได้
น้ำคาวปลาผิดปกติ ลักษณะของน้ำคาวปลาที่ไม่เป็นดังที่กล่าวข้างต้นถือว่าเป็นน้ำคาวปลาที่ผิดปกติ
ซึ่งที่พบได้บ่อยๆ มี 2 ชนิด คือ น้ำคาวปลาที่เคยจางลงแล้วกลับมามีสีแดงใหม่
และ น้ำคาวปลาที่มีกลิ่นเหม็น
1.น้ำคาวปลาที่กลับมามีสีแดงใหม่
ส่วนมากแล้วเกิดจากการที่มีเศษรกค้างอยู่ในมดลูกหรือมีการอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้น้ำคาวปลา กลับมามีสีแดงใหม่หลังคลอด และเมื่อให้การรักษาโดยการขูดมดลูกแล้ว ปัญหาก็หายไป
สำหรับปัญหาว่าทำไมบางคนรกถึงค้างในมดลูกไม่ยอมคลอดเหมือนคนอื่นๆ สาเหตุที่พบบ่อยๆ ก็คือ การที่คุณแม่เคยมีการอักเสบติดเชื้อในมดลูกมาก่อน หรือเคยขูดมดลูกมาหลายครั้ง กรณีก็อาจทำให้ผนังของโพรงมดลูกไม่เรียบ มีแผล ทำให้รกเกาะติดแล้วลอกตัวได้ไม่ดี ทำให้มีปัญหารกค้าง
2.น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น
ปกติน้ำคาวปลาจะมีกลิ่นคาวเลือด แต่ถ้ามีกลิ่นเหม็นแสดงว่าน่าจะมีการติดเชื้อในมดลูก สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อน่าจะเกิดจากการที่ปล่อยให้น้ำเดินเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้เชื้อโรคซึ่งอยู่บริเวณช่องคลอดเข้าไปในมดลูกได้ นอกจากนี้การตรวจภายในเป็นระยะๆ เพื่อดูว่าการเจ็บครรภ์คลอดของคุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง ถ้าตรวจบ่อยครั้งก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
ยาขับน้ำคาวปลา...จำเป็นไหม ?
ในอดีตมีความเชื่อว่าคุณแม่หลังคลอดถ้าน้ำคาวปลาออกมามากๆ ถึงจะดี เพราะเชื่อว่าจะได้ขับเลือดเสียออกจากร่างกายนั่นเอง ดังนั้นคุณแม่หลังคลอดจึงมักได้รับคำแนะนำ ให้รับประทานยาขับน้ำคาวปลาซึ่งมักเป็นยาดองเหล้า ความเชื่อดังกล่าวผิดครับ คุณแม่ที่รับประทานยาดองเหล้ามากๆ ถ้าให้ลูกดูดนม ลูกจะได้รับแอลกอฮอล์ด้วย ถ้าดูดมากๆ ลูกก็จะเมาเหล้าไปด้วย
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ “ยาสตรีหมอทองอินทร์” สามารถแก้ปัญหา “น้ำคาวปลา” ได้ผลแน่นอน
วิธีใช้ : วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ(15-30 ซีซี) ก่อนอาหาร วันละ 2 ครั้งคือ เวลาเช้า-เย็น(เขย่าขวดก่อนรินยา) และรับประทานขณะท้องว่าง
ควรรับประทานให้ติดต่อกัน 15 วัน เป็นอย่างน้อย ก็จะเห็นผล
ปริมาณและราคา 1 ขวด ปริมาณ 750 c.c. ราคา 750 บาท
ดูข้อมูลที่ http://ladyherbal.blogspot.com
เลขทะเบียนยาที่ G 32/49
สั่งซื้อละเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
ผู้จำหน่ายรายใหญ่ คุณวีระชัย ทองสา
โทร.084-6822645 , 085-0250423
อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น